เมล็ดพันธุ์ บัตเตอร์นัทสควอช ฟักทองฝรั่ง Butternut Squash ปลูกง่าย โตเร็ว ผลผลิตสูง (ซื้อ 10 แถม 1 คละได้)
การเตรียมดินเพาะเมล็ด
ใส่พีทมอสลงในถาดเพาะ โดยให้มีให้พีทมอสต่ำกว่าขอบถาดเพาะประมาณ 1 เซนติเมตร เหตุผลที่ใช้พีทมอสแทนวัสดุปลูกชนิดอื่น ๆ เพราะพีทมอสมีแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต และของเมล็ดพันธุ์ ทำให้ช่วงระยะแรกเมล็ดเติบโตท่ามกลางแหล่งอาหารที่ดีและเหมาะสม
หยอดเมล็ดลงหลุม
หยอดเมล็ดพันธุ์ฟักทองบัตเตอร์นัท “ซันไลท์” ลงถาดเพาะ โดยนำส่วนแหลมปักลงไปในพีทมอส หยอดลึกลงไปประมาณ 1 – 2 เท่าของความสูงเมล็ดพันธุ์ หยอดแค่หลุมละ 1 – 2 เมล็ดก็เพียงพอค่ะ จากนั้นโรยพีทมอสกลบหน้าหลุมบาง ๆ
หลังจากหยอดเมล็ดลงหลุม 8 – 10 วันก็สามารถย้ายต้นอ่อนลงกระถางปลูกได้
ผสมดินสำหรับปลูก
ผสมดินสำหรับใช้ในการปลูกต้นกล้า โดยใช้ดินร่วน 1 ส่วน , ขุยมะพร้าวสับ 1 ส่วน , ใบก้ามปูแห้ง 1 ส่วน และปุ๋ยหมัก 1 ส่วน
ย้ายต้นกล้าลงกระถางปลูก
ขุดหลุมเป็นแนวในการวางต้นกล้าด้วยช้อนปลูกให้ขนาดหลุมใหญ่กว่าขนาดตุ้มดินของต้นกล้าประมาณ 2 เซนติเมตร จากนั้นใช้ช้อนปลูกค่อย ๆ ตักต้นกล้าออกจากถาดเพาะ แล้ววางลงหลุมที่ขุดเตรียมไว้เมื่อซักครู่อย่างเบามือ กลบดินรอบ ๆ โคนต้นแล้วออกแรงกดเบา ๆ ให้ใบล่างสุดของต้นกล้าโผล่พ้นดินขึ้นมา
วิธีการใส่ปุ๋ย
เมื่อต้นกล้าอายุได้ 21 วัน ให้ใส่ปุ๋ยยูเรียขนาด 10 กรัม , เมื่อต้นกล้าอายุ 28 วัน ให้ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 อีก 15 กรัม , เมื่อต้นกล้าอายุ 35 วัน ใส่ปุ๋ยยูเรียเพิ่มอีก 10 กรัม และเมื่อต้นกล้าอายุได้ 42 วันให้ใส่ปุ๋ยสูตร 0-0-60 อีก 10 กรัม หมั่นดูแลความชุ่มชื้นภายในดินให้เพียงพอ
การเก็บเกี่ยว
เมื่อมีอายุ 75 วัน ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ โดยสามารถปลูกและเก็บเกี่ยวได้ตลอดทั้งปี แม้ปลูกในกระถางก็ยังติดผลดก ลักษณะผิวของฟักทองบัตเตอร์นัทค่อนข้างเรียบ ลื่น สีครีมนวล เนื้อหนา สีเหลืองทอง น้ำหนักของผลเฉลี่ยอยู่ที่ 0.6 – 0.8 กิโลกรัม รสชาติหวาน มัน สามารถเก็บไว้ได้นานโดยสี และรสชาติไม่เปลี่ยนแปลง
รีวิว
ยังไม่มีบทวิจารณ์